_ผลของการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน ?
โดยทั่วไปผลของการฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 3 - 8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับว่าฉีดรักษาอาการอะไร ฉีดบริเวณใด ฉีดเป็นครั้งแรกหรือเป็นการฉีดซ้ำผู้รับการรักษาอายุเท่าใด สุขภาพพื้นฐาน การใช้ชีวิต การดูแลส่วนบุคคล ซึ่งการที่ผลการรักษาอยู่ไม่ถาวรนั้น ที่จริงอาจนับได้ว่าเป็นข้อดี เพราะหากผลที่ได้รับไม่เป็นที่น่าพอใจ ในที่สุดก็จะค่อยๆ หายไปเองได้ ข้อเสียก็คือสิ้นเปลือง เพราะหากได้ผลดีถูกใจก็ต้องฉีดซ้ำเรื่อยๆ
โบท็อกซ์ อันตรายหรือไม่ ?
จากการรวบรวมผู้ป่วยที่ได้รับการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน จำนวนมาก ในต่างประเทศพบว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต เมื่อใช้โดยผู้เชี่ยวชาญและใช้ฉีดเพื่อความสวยงาม
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ?
ผลข้างเคียงส่วนมากที่เกิดขึ้นมักเป็นแบบเฉพาะที่ เช่น หนังตาตก กลืนอาหารลำบาก หน้าไม่สมมาตร หรือจุดเลือดออกในบริเวณที่ฉีด ซึ่งเกิดได้แม้ในมือผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นแพทย์ และผู้ทำการรักษาจึงควรคุยกันโดยละเอียดก่อนการฉีดทุกครั้ง
เมื่อเกิดผลข้างเคียงแล้วจะทำอย่างไร ?
ดังที่ได้กล่าวแล้วตอนต้นว่าผลจากการฉีด โบทูลินั่มท็อกซิน นั้นจะค่อยๆ หมดไปเองภายในเวลาเป็นเดือน ดังนั้นผู้รับการรักษาจึงใจเย็นๆ และค่อยๆ รอให้ผลของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน หมดไปเองก็ได้ ส่วนในกรณีที่เกิดหนังตาตกนั้น ผู้รับการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นกรณีไป
โบท็อกซ์มีกี่ยี่ห้อ ?
จะพูดถึงแต่ยี่ห้อของ Botulinium Toxin Type A น่ะค่ะ จริงๆ แล้ว Botox มีมากมายหลากหลายยี่ห้อ และมาจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ อเมริกา เกาหลี เยอรมัน สเปน แต่ที่มีเข้ามาในประเทศไทย ที่ได้คุณภาพ, หาต้นตอได้จริงๆ (มีตัวแทนนำเข้าอย่างถูกต้อง) และที่สำคัญคือ ผ่าน อย.ประเทศไทย มีดังนี้
ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ที่เป็นบริษัทที่เชื่อถือได้มีตัวตนมีเวปไซด์แน่นอนที่หาเจอตอนนี้แต่ไม่มีขายในประเทศไทย ได้แก่ Xeomin (Merz, USA), Bocouture (Merz, USA), AZZALURE (Galderma, USA), VISTABEL เป็นอีกยี่ห้อของบริษัท Allergan (USA) ใช้ชื่อนี้ออกขายในประเทศแถบยุโรป
ส่วนยี่ห้ออื่นๆ เหนือจากนี้ เช่น Neuroxin (Germany), Synerox (Germany), Fine (China), Excellent (Korea), RefineX, Biotox, Medbotox หมอพยายามหาที่มาที่ไปอย่างเต็มที่ คิดว่าสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหาเว็ปไซท์ของบริษัทได้จริง พบแต่ในเวปไซท์ขายของของต่างประเทศที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
ดื้อต่อโบท็อกซ์ คือ อะไร และ มีจริงไหม ?
ดื้อต่อโบท็อกซ์ คือ การที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อโบท็อกซ์ ทำให้ฉีดเข้าไปแล้วไม่ได้ผล เพราะภูมิคุ้มกันของเราทำลายสารโบท็อกซ์ทิ้งไปหมด เกิดขึ้นได้ในกรณีที่มีการฉีดติดต่อกันเป็นเวลานานด้วยปริมาณมาก ซึ่งพบได้น้อยมาก จากวารสารทางการแพทย์เคยมีรายงานว่าพบในคนไข้ที่มีประวัติการฉีดมากกว่า 200 ยูนิตต่อครั้ง ติดต่อกันหลายครั้ง ซึ่งมักเป็นผู้ป่วยด้วยโรคที่มีการเกร็งค้างของกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ เช่น ผู้ป่วยพิการทางสมอง ซึ่งต้องใช้ปริมาณมากในการฉีดแต่ละครั้ง
จากการฉีดเพื่อการเสริมสวยนั้น มีรายงานในผู้ป่วยที่มีการฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินเท่านั้น ซึ่งในชีวิตการทำงานของตัวหมอเอง ยังไม่เคยพบเลยซักราย
เมื่อดื้อต่อโบท็อก แล้วจะฉีดอีกได้ไหม ใช้อะไรทดแทนได้ ?
เพราะโบท็อกซ์ที่ใช้ส่วนใหญ่เป็น Type A เมื่อแพ้หรือมีการดื้อต่อโบท็อกซ์ สามารถใช้ Botulinum Toxin Type B ทดแทนได้ (Myobloc)
เราควรเลือกใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ? ของแต่ละประเทศต่างกันอย่างไร ?
ควรเลือกใช้โบท็อกซ์ที่มีคุณภาพที่เชื่อถือได้ นั่นก็คือเลือกยี่ห้อที่เป็นบริษัทที่เชื่อถือได้นั่นเอง ถ้าอ่านมาตั้งแต่ต้นคงจะรู้แล้วนะคะ ว่าเลือกใช้ยี่ห้ออะไรได้บ้าง
ประโยชน์ในด้านความงามของโบท็อกซ์ในปัจจุบัน
1. ลดเลือนริ้วรอยบนในหน้า ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เพราะสีหน้าของคนเราที่เปลี่ยนไป เกิดจากการขยับตัวการทำงานของกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม ซึ่งจะทำให้เกิดรอยตีนกา และ รอยย่นรอบดวงตา (Crow’s Feet), การขมวดคิ้ว ลบ รอยย่น บริเวณ หน้าผาก (Forehead Line) รอยย่น ระหว่าง คิ้ว (Glabella), รอยย่น รอบปาก (Perioral Fold) และ ร่องแก้ม เป็นต้น รวมไปถึงลำคอ (Platysma) ได้อีกด้วย
โดยทั่วไปผลของการฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 3 - 8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นกับว่าฉีดรักษาอาการอะไร ฉีดบริเวณใด ฉีดเป็นครั้งแรกหรือเป็นการฉีดซ้ำผู้รับการรักษาอายุเท่าใด สุขภาพพื้นฐาน การใช้ชีวิต การดูแลส่วนบุคคล ซึ่งการที่ผลการรักษาอยู่ไม่ถาวรนั้น ที่จริงอาจนับได้ว่าเป็นข้อดี เพราะหากผลที่ได้รับไม่เป็นที่น่าพอใจ ในที่สุดก็จะค่อยๆ หายไปเองได้ ข้อเสียก็คือสิ้นเปลือง เพราะหากได้ผลดีถูกใจก็ต้องฉีดซ้ำเรื่อยๆ
โบท็อกซ์ อันตรายหรือไม่ ?
จากการรวบรวมผู้ป่วยที่ได้รับการฉีด โบทูลินั่ม ท็อกซิน จำนวนมาก ในต่างประเทศพบว่าไม่มีอันตรายถึงชีวิต เมื่อใช้โดยผู้เชี่ยวชาญและใช้ฉีดเพื่อความสวยงาม
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ?
ผลข้างเคียงส่วนมากที่เกิดขึ้นมักเป็นแบบเฉพาะที่ เช่น หนังตาตก กลืนอาหารลำบาก หน้าไม่สมมาตร หรือจุดเลือดออกในบริเวณที่ฉีด ซึ่งเกิดได้แม้ในมือผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นแพทย์ และผู้ทำการรักษาจึงควรคุยกันโดยละเอียดก่อนการฉีดทุกครั้ง
เมื่อเกิดผลข้างเคียงแล้วจะทำอย่างไร ?
ดังที่ได้กล่าวแล้วตอนต้นว่าผลจากการฉีด โบทูลินั่มท็อกซิน นั้นจะค่อยๆ หมดไปเองภายในเวลาเป็นเดือน ดังนั้นผู้รับการรักษาจึงใจเย็นๆ และค่อยๆ รอให้ผลของ โบทูลินั่ม ท็อกซิน หมดไปเองก็ได้ ส่วนในกรณีที่เกิดหนังตาตกนั้น ผู้รับการรักษาควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาเป็นกรณีไป
โบท็อกซ์มีกี่ยี่ห้อ ?
จะพูดถึงแต่ยี่ห้อของ Botulinium Toxin Type A น่ะค่ะ จริงๆ แล้ว Botox มีมากมายหลากหลายยี่ห้อ และมาจากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ อเมริกา เกาหลี เยอรมัน สเปน แต่ที่มีเข้ามาในประเทศไทย ที่ได้คุณภาพ, หาต้นตอได้จริงๆ (มีตัวแทนนำเข้าอย่างถูกต้อง) และที่สำคัญคือ ผ่าน อย.ประเทศไทย มีดังนี้
- Botox (Allergan, USA)
- Dysport (Ipsen, Ireland)
- Neuronox (Medy-Tox Inc., South Korea)
- BTXA (HUGH, Hong Kong)
ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ที่เป็นบริษัทที่เชื่อถือได้มีตัวตนมีเวปไซด์แน่นอนที่หาเจอตอนนี้แต่ไม่มีขายในประเทศไทย ได้แก่ Xeomin (Merz, USA), Bocouture (Merz, USA), AZZALURE (Galderma, USA), VISTABEL เป็นอีกยี่ห้อของบริษัท Allergan (USA) ใช้ชื่อนี้ออกขายในประเทศแถบยุโรป
ส่วนยี่ห้ออื่นๆ เหนือจากนี้ เช่น Neuroxin (Germany), Synerox (Germany), Fine (China), Excellent (Korea), RefineX, Biotox, Medbotox หมอพยายามหาที่มาที่ไปอย่างเต็มที่ คิดว่าสุดความสามารถแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหาเว็ปไซท์ของบริษัทได้จริง พบแต่ในเวปไซท์ขายของของต่างประเทศที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ
ดื้อต่อโบท็อกซ์ คือ อะไร และ มีจริงไหม ?
ดื้อต่อโบท็อกซ์ คือ การที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อโบท็อกซ์ ทำให้ฉีดเข้าไปแล้วไม่ได้ผล เพราะภูมิคุ้มกันของเราทำลายสารโบท็อกซ์ทิ้งไปหมด เกิดขึ้นได้ในกรณีที่มีการฉีดติดต่อกันเป็นเวลานานด้วยปริมาณมาก ซึ่งพบได้น้อยมาก จากวารสารทางการแพทย์เคยมีรายงานว่าพบในคนไข้ที่มีประวัติการฉีดมากกว่า 200 ยูนิตต่อครั้ง ติดต่อกันหลายครั้ง ซึ่งมักเป็นผู้ป่วยด้วยโรคที่มีการเกร็งค้างของกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ เช่น ผู้ป่วยพิการทางสมอง ซึ่งต้องใช้ปริมาณมากในการฉีดแต่ละครั้ง
จากการฉีดเพื่อการเสริมสวยนั้น มีรายงานในผู้ป่วยที่มีการฉีดโบท็อกซ์บ่อยเกินเท่านั้น ซึ่งในชีวิตการทำงานของตัวหมอเอง ยังไม่เคยพบเลยซักราย
เมื่อดื้อต่อโบท็อก แล้วจะฉีดอีกได้ไหม ใช้อะไรทดแทนได้ ?
เพราะโบท็อกซ์ที่ใช้ส่วนใหญ่เป็น Type A เมื่อแพ้หรือมีการดื้อต่อโบท็อกซ์ สามารถใช้ Botulinum Toxin Type B ทดแทนได้ (Myobloc)
เราควรเลือกใช้โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดี ? ของแต่ละประเทศต่างกันอย่างไร ?
ควรเลือกใช้โบท็อกซ์ที่มีคุณภาพที่เชื่อถือได้ นั่นก็คือเลือกยี่ห้อที่เป็นบริษัทที่เชื่อถือได้นั่นเอง ถ้าอ่านมาตั้งแต่ต้นคงจะรู้แล้วนะคะ ว่าเลือกใช้ยี่ห้ออะไรได้บ้าง
ประโยชน์ในด้านความงามของโบท็อกซ์ในปัจจุบัน
1. ลดเลือนริ้วรอยบนในหน้า ที่เกิดจากการแสดงสีหน้า เพราะสีหน้าของคนเราที่เปลี่ยนไป เกิดจากการขยับตัวการทำงานของกล้ามเนื้อ ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม ซึ่งจะทำให้เกิดรอยตีนกา และ รอยย่นรอบดวงตา (Crow’s Feet), การขมวดคิ้ว ลบ รอยย่น บริเวณ หน้าผาก (Forehead Line) รอยย่น ระหว่าง คิ้ว (Glabella), รอยย่น รอบปาก (Perioral Fold) และ ร่องแก้ม เป็นต้น รวมไปถึงลำคอ (Platysma) ได้อีกด้วย
2. การปรับโครงหน้า (ลดกราม) กล้ามเนื้อกรามเป็นกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ เมื่อเราฉีดโบท็อกซ์ไปยับยั้งการทำงานของกล้ามนื้ไปสักระยะ เมื่อกล้ามเนื้อไม่ถูกใช้งาน ก็จะมีขนาดเล็กลง ทำให้มุมกรามของเราเล็ก จึงมองเห็นหน้าเรียวลงได้
3. ลดขนาดน่อง
_4. ปรับรูปคิ้ว ลักษณะของคิ้วที่เป็นอยู่เกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงต้านกันตามหลักกายวิภาค
เราสามารถออกแบบให้การยับยั้งกล้ามเนื้อในบางจุด
ก็จะสามารถทำให้รูปคิ้วเปลี่ยนไปได้
_5. ลดปริมาณเหงื่อที่รักแร้และผ่ามือ
ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์
- เป็นสารที่ปลอดภัย เพราะสามารถสลายไปเองด้วยร่างกายของเราทั้งหมด ไม่ตกค้าง
- ใช้เวลาในการฉีดเพียง 5 – 10 นาทีเท่านั้น ไม่ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ
- ไม่ต้องพบกับข้อเสียจากการ ผ่าตัด เช่น บวม, ปวดแผล, มีแผลเป็น หรือ ข้อแทรกซ้อนอื่นๆ ที่รุนแรง
- ใช้ยาปริมาณเพียงเล็กน้อยในการฉีด และใช้เข็มที่มีขนาดเล็กที่สุดในการฉีด ซึ่งจะรู้สึกเหมือนมดกัดเท่านั้น
- เห็นผลเร็ว เพียงไม่กี่วันคุณจะรู้สึกได้ว่า ริ้วรอย หายไป
- ใช้ได้ผลดีเท่าๆ กัน ทั้ง ผู้หญิง และ ผู้ชาย
- สามารถนำไปใช้ร่วมกับ คอลลาเจน ฟิลเลอร์ หรือ เลเซอร์ ได้
- มีปัญหาแพ้โบท็อกซ์ หรือ โปรตีนอัลบูมิน
- ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร
- มีความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้ออยู่แล้ว เช่น มัยแอสทีเนีย Myasthenia Gravis หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอื่น
- เลือดออกง่ายผิดปกติ
- ยาบางตัวมีผลต่อโบท๊อกซ์ เช่น ยากลุ่มยาแอนติไบโอติกส์ ควินิน
- ภายหลังฉีด ควรอยู่ในท่านั่ง หรือยืนประมาณ 4 ชม. เพื่อกันการไหลของยาไปที่อื่น
- ใช้กล้ามเนื้อ คือ ขมวดคิ้วบ่อยๆ ให้ยาจับกับตัวรับดีๆ
- อาจมีจ้ำเลือดเล็กๆ ไม่ต้องทำอะไร
- ไม่ควรอบซาวน่า, การทำเลเซอร์ หรือ การให้หน้าโดนความร้อน 1 สัปดาห์ ไม่งั้นโบท็อกซ์จะสลายก่อนจะออกฤทธิ์เต็มที่ เสียดายของนะจะบอกให้
- ห้ามนวดหน้าแรงๆ หรือ ทำทรีตเม้นท์ด้วยเครื่องที่เกี่ยวกับการผลักยา 2 สัปดาห์ เพราะอาจจะผลักโบท็อกซ์ให้ลงไปลึกเกินกว่าที่ต้องการ ทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงได้ เช่น หนังตาตก เป็นต้น
- ใช้เครื่องสำอางค์ได้ตามปกติ
- อาจมีอาการตึงหนักหน้าใน 3 - 4 วัน เป็นปกติ ไม่ต้องกังวล หายไปใน 1 - 2 สัปดาห์ ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 5 วัน เต็มที่ใน 2 - 4 สัปดาห์
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=sweet2syrup&date=16-03-2010&group=20&gblog=4
สามารถโทรสอบถาม และใช้บริการได้ที่
ParBeauty & Slim
ปลาบิวตี้ & สลิม
เบอร์โทร. 08-7210-0901. 09-1619-1724
ถ.ริมหนองสมบูรณ์ (วงศ์สวรรค์) อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000