_การดูดไขมัน (Liposuction)
_การดูดไขมัน (Liposuction)
ถือเป็นการรักษาทางการแพทย์ชนิดหนึ่ง สำหรับลดจำนวนไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนังที่สะสมอยู่เฉพาะที่ในปริมาณมากเกินไป เป็นการใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายท่อขนาด 3-6 มิลลิเมตร สอดผ่านแผลขนาดเล็กเข้าใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนที่ไม่ต้องการออก การดูดไขมันไม่ใช่วิธีลดความอ้วนแต่สามารถกำจัดไขมันเฉพาะส่วนได้ดี ผู้ที่จะรับการผ่าตัดดูดไขมันควรจะมีสุขภาพแข็งแรงดี มีผิวหนังที่มีความยืดหยุ่นดี และมีความคาดหวังที่เป็นปกติ (Realistic Expectation)
การผ่าตัด
การ ดูดไขมันในปัจจุบันมีเทคนิคที่ทำให้มีการเสียเลือดน้อยมาก โดยที่ถ้าไขมันและ น้ำที่ถูกดูดออกมามีปริมาณไม่เกิน 6,000 มิลลิลิตร ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับเลือด การผ่าตัดอาจจะทำโดยการดมยาสลบ หรือการฉีดยาชาเฉพาะที่ก็ได้ขึ้นอย่กับปริมาณ และบริเวณที่จะที่การดูดไขมัน ก่อนที่การผ่าตัดแพทย์จะทำการวาดตำแหน่งที่มีความต้องการดูดไขมันเสียก่อน ที่จะวางยาสลบ หรือฉีดยาชา หลังจากนั้นจะทำการเจาะแผลขนาดเล็กที่ผิวหนังขนาดเท่ากับขนาดของท่อที่จะทำ การดูดไขมันอย่างน้อยตำแหน่งละสองรู เพื่อให้การดูดไขมันเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ในบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงกันอาจจะใช้รูแผลร่วมกันได้ หลังผ่าตัดแพทย์จะ สวมผ้ายืดหรือพันผ้าไว้ประมาณสองเดือน บริเวณที่ทำการดูดไขมันอาจจะมีรอยเขียวช้ำได้ ซึ่งจะหายไปเองภายในระยะเวลาประมาณสองสัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อน
ข้อดีของการดูดไขมัน
ข้อบ่งชี้ในการดูดไขมัน
หลังการดูดไขมัน
โรคแทรกซ้อน
พบได้ไม่มาก ได้แก่
โรคแทรกซ้อนจะพบมากในภาวะดังต่อไปนี้
ข้อที่ควรจะระวัง
การดูดไขมันมิใช่เป็นการลดน้ำหนัก การดูดไขมันจะเป็นการดูดไขมันเฉพาะที่เพื่อลดสัดส่วนของร่างกายให้ดูดี เป็นการดูดไขมันที่นิยมทำเนื่องจากไขมันจะมาสะสมบริเวณหน้าท้อง การดูดไขมันจะทำให้ทรวดทรงดีขึ้น ผู้หญิงที่อ้วนเมื่อลดน้ำหนักลงได้ แต่ไม่สามารถลดเส้นรอบเอว หรือยังลงพุงการดูดไขมันจะช่วยทำให้ดูดีขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากไขมันบริเวณนี้จะไม่ค่อยลดแม้ว่าจะออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร
เมื่อพบแพทย์ครั้งแรก
แพทย์จะถามถึงความคาดหวังของผู้ป่วย หลังจากนั้นแพทย์จะอธิบายถึงวิธีการทำ ทางเลือกอื่น ราคา โรคแทรกซ้อน ข้อจำกัดของการทำ หลังจากนั้นแพทย์จะตรวจร่างกาย ตรวจความยืดหยุ่นของผิวหนัง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ตำแหน่งที่ไขมันสะสม แพทย์จะบันทึกประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการใช้ยา ประวัติการขึ้นของน้ำหนัก การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย สำหรับท่านผู้อ่านท่านต้องถามแพทย์เรื่องที่ท่านสงสัย ขอดูรูปของคนที่เคยทำ ถามเรื่องโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น รวมทั้งบุคคลที่เคยทำเพื่อท่านจะได้ขอข้อมูล
วิธีการทำ
ขั้นแรกแพทย์จะขีดแนวบริเวณที่จะดูดไขมัน แพทย์จะให้น้ำเกลือแก่ผู้ป่วยเพื่อรักษาความสมดุลของน้ำในร่างกาย หากบริเวณที่ทำกว้างก็จะต้องวางยาสลบ แต่หากไม่กว้างก็จะให้ยานอนหลับแพทย์จะกรีดแผลเล็กๆ ในบริเวณกางเกงใน แล้วจะสอดท่อเล็กซึ่งต่อกับเครื่องดูด เครื่องจะดูดไขมันออกมาตามที่ต้องการ โดยไม่ทำลายเส้นเลือด หรือเส้นประสาท นอกจากนั้นแพทย์อาจจะใช้น้ำเกลือผสมยาชาฉีดเข้าไปก่อน ซึ่งจะทำให้เลือดออกน้อย ดูดไขมันได้ง่ายขึ้น ลดอาการบวม นอกจากนั้นยังได้มีการพัฒนาวิธีการสลายไขมันโดยใช้เครื่อง Ultrasound ช่วย เรียกว่า Ultrasound - Assisted Liposuction (UAL) ส่วน Tumescent Ttechnique คือการฉีดน้ำเกลือเข้าไปบริเวณที่จะดูดก่อน ส่วนวิธีดั้งเดิมเรียก Dry Liposuction ปัจจุบันนิยมลลดลงเนื่องจากต้องใช้ยาสลบการดูดแต่ละครั้งจะใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง หลังทำสามารถกลับบ้านได้ นอกเสียจากปริมาณไขมันที่ดูดมีปริมาณมาก หรือทำการผ่าตัดหลายชนิด รอยช้ำเลือดที่เกิดจากการดูดไขมันจะใช้เวลา 3 สัปดาห์จึงจะหาย แต่สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติหลังจากการดูด 2-3 วัน ไม่ทำงานหนัก หรือออกกำลังกายหนักในช่วง 4-6 สัปดาห์ หลังจากการดูดไขมัน และต้องสวมที่รัดหน้าท้องจนกระทั่งแพทย์ให้เอาออก
ถือเป็นการรักษาทางการแพทย์ชนิดหนึ่ง สำหรับลดจำนวนไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนังที่สะสมอยู่เฉพาะที่ในปริมาณมากเกินไป เป็นการใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายท่อขนาด 3-6 มิลลิเมตร สอดผ่านแผลขนาดเล็กเข้าใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนที่ไม่ต้องการออก การดูดไขมันไม่ใช่วิธีลดความอ้วนแต่สามารถกำจัดไขมันเฉพาะส่วนได้ดี ผู้ที่จะรับการผ่าตัดดูดไขมันควรจะมีสุขภาพแข็งแรงดี มีผิวหนังที่มีความยืดหยุ่นดี และมีความคาดหวังที่เป็นปกติ (Realistic Expectation)
การผ่าตัด
การ ดูดไขมันในปัจจุบันมีเทคนิคที่ทำให้มีการเสียเลือดน้อยมาก โดยที่ถ้าไขมันและ น้ำที่ถูกดูดออกมามีปริมาณไม่เกิน 6,000 มิลลิลิตร ก็ไม่จำเป็นต้องได้รับเลือด การผ่าตัดอาจจะทำโดยการดมยาสลบ หรือการฉีดยาชาเฉพาะที่ก็ได้ขึ้นอย่กับปริมาณ และบริเวณที่จะที่การดูดไขมัน ก่อนที่การผ่าตัดแพทย์จะทำการวาดตำแหน่งที่มีความต้องการดูดไขมันเสียก่อน ที่จะวางยาสลบ หรือฉีดยาชา หลังจากนั้นจะทำการเจาะแผลขนาดเล็กที่ผิวหนังขนาดเท่ากับขนาดของท่อที่จะทำ การดูดไขมันอย่างน้อยตำแหน่งละสองรู เพื่อให้การดูดไขมันเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ในบริเวณที่อยู่ใกล้เคียงกันอาจจะใช้รูแผลร่วมกันได้ หลังผ่าตัดแพทย์จะ สวมผ้ายืดหรือพันผ้าไว้ประมาณสองเดือน บริเวณที่ทำการดูดไขมันอาจจะมีรอยเขียวช้ำได้ ซึ่งจะหายไปเองภายในระยะเวลาประมาณสองสัปดาห์
ภาวะแทรกซ้อน
- เลือดออก
- การติดเชื้อ
- สีผิวเข้มผิดปกติ (Hyperpigmentation) บริเวณที่ดูดไขมัน
- ผิวขรุขระ
- ไขมันถูกดูดออกมากเกินไป (Overcorrection)
- ไขมันถูกดูดออกน้อยเกินไป (Undercorrection)
- แผลเป็นบริเวณตำแหน่งที่เป็นทางเข้าของท่อดูดไขมัน
ข้อดีของการดูดไขมัน
- ผิวหนังบริเวณที่ถูกดูดจะเรียบ ไม่ค่อยมีรอย
- เลือดออกน้อย
- เกิดรอยช้ำเขียวน้อย
- หายเร็ว
ข้อบ่งชี้ในการดูดไขมัน
- ใช้ดูดไขมันในกรณีที่ออกกำลังและคุมอาหารแล้วไขมันไม่ลด
- กล้ามเนื้อบริเวณที่จะดูดต้องแข็งแรง
- ผิวหนังบริเวณที่ถูกดูดต้องมีความยืดหยุ่นดี
หลังการดูดไขมัน
- ยาชาจะออกฤทธิ์ประมาณ 24 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยจะรู้สึกตัวดีขณะที่มีการดูดไขมัน
- ผู้ป่วยจะกลับไปทำงานได้ตามปกติ
- หลังจากดูด 7 วัน จึงจะออกกำลังกายได้
โรคแทรกซ้อน
พบได้ไม่มาก ได้แก่
- ผิวหนังเป็นปม มีก้อนใต้ผิวหนัง แผลเป็น
- ชา การติดเชื้อ แผลเป็น เสียชีวิตเนื่องไขมันเข้าเส้นเลือด
- เสียเลือด และน้ำทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ
โรคแทรกซ้อนจะพบมากในภาวะดังต่อไปนี้
- นำไขมันออกมากเกินไป
- ทำการผ่าตัดหลายชนิดในการทำครั้งเดียว
- การดมยาสลบ
ข้อที่ควรจะระวัง
การดูดไขมันมิใช่เป็นการลดน้ำหนัก การดูดไขมันจะเป็นการดูดไขมันเฉพาะที่เพื่อลดสัดส่วนของร่างกายให้ดูดี เป็นการดูดไขมันที่นิยมทำเนื่องจากไขมันจะมาสะสมบริเวณหน้าท้อง การดูดไขมันจะทำให้ทรวดทรงดีขึ้น ผู้หญิงที่อ้วนเมื่อลดน้ำหนักลงได้ แต่ไม่สามารถลดเส้นรอบเอว หรือยังลงพุงการดูดไขมันจะช่วยทำให้ดูดีขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากไขมันบริเวณนี้จะไม่ค่อยลดแม้ว่าจะออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร
เมื่อพบแพทย์ครั้งแรก
แพทย์จะถามถึงความคาดหวังของผู้ป่วย หลังจากนั้นแพทย์จะอธิบายถึงวิธีการทำ ทางเลือกอื่น ราคา โรคแทรกซ้อน ข้อจำกัดของการทำ หลังจากนั้นแพทย์จะตรวจร่างกาย ตรวจความยืดหยุ่นของผิวหนัง ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ตำแหน่งที่ไขมันสะสม แพทย์จะบันทึกประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการใช้ยา ประวัติการขึ้นของน้ำหนัก การรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย สำหรับท่านผู้อ่านท่านต้องถามแพทย์เรื่องที่ท่านสงสัย ขอดูรูปของคนที่เคยทำ ถามเรื่องโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น รวมทั้งบุคคลที่เคยทำเพื่อท่านจะได้ขอข้อมูล
วิธีการทำ
ขั้นแรกแพทย์จะขีดแนวบริเวณที่จะดูดไขมัน แพทย์จะให้น้ำเกลือแก่ผู้ป่วยเพื่อรักษาความสมดุลของน้ำในร่างกาย หากบริเวณที่ทำกว้างก็จะต้องวางยาสลบ แต่หากไม่กว้างก็จะให้ยานอนหลับแพทย์จะกรีดแผลเล็กๆ ในบริเวณกางเกงใน แล้วจะสอดท่อเล็กซึ่งต่อกับเครื่องดูด เครื่องจะดูดไขมันออกมาตามที่ต้องการ โดยไม่ทำลายเส้นเลือด หรือเส้นประสาท นอกจากนั้นแพทย์อาจจะใช้น้ำเกลือผสมยาชาฉีดเข้าไปก่อน ซึ่งจะทำให้เลือดออกน้อย ดูดไขมันได้ง่ายขึ้น ลดอาการบวม นอกจากนั้นยังได้มีการพัฒนาวิธีการสลายไขมันโดยใช้เครื่อง Ultrasound ช่วย เรียกว่า Ultrasound - Assisted Liposuction (UAL) ส่วน Tumescent Ttechnique คือการฉีดน้ำเกลือเข้าไปบริเวณที่จะดูดก่อน ส่วนวิธีดั้งเดิมเรียก Dry Liposuction ปัจจุบันนิยมลลดลงเนื่องจากต้องใช้ยาสลบการดูดแต่ละครั้งจะใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง หลังทำสามารถกลับบ้านได้ นอกเสียจากปริมาณไขมันที่ดูดมีปริมาณมาก หรือทำการผ่าตัดหลายชนิด รอยช้ำเลือดที่เกิดจากการดูดไขมันจะใช้เวลา 3 สัปดาห์จึงจะหาย แต่สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติหลังจากการดูด 2-3 วัน ไม่ทำงานหนัก หรือออกกำลังกายหนักในช่วง 4-6 สัปดาห์ หลังจากการดูดไขมัน และต้องสวมที่รัดหน้าท้องจนกระทั่งแพทย์ให้เอาออก
_ผลการรักษา
หลังจากการดูดไขมันจะเริ่มพบกับการเปลี่ยนแปลงประมาณ 3 สัปดาห์ แต่จะเห็นผลเต็มที่เมื่อเวลา 6-12 เดือน แต่ต้องพึงระลึกว่าการออกกำลังกายจะทำให้ผิวหนังและความแข็งแรงของกล้าม เนื้อบริเวณนั้นดีขึ้น รูปร่างของท่านจะดูดีขึ้น ไขมันบริเวณนั้นจะไม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้ดูดเซลล์ไขมันในบริเวณหมดแล้ว หากน้ำหนักท่านขึ้นก็เป็นจากไขมันบริเวณอื่น เนื่องจากผิวหนังของคนสูงอายุจะหย่อนยานดังนั้นผลการรักษาจึงไม่ดีเหมือนคนหนุ่มสาว
การดูดไขมันต้นขา
ปัญหาที่สำคัญของผู้หญิงอีกอย่าง คือ การที่มีต้นขาใหญ่ ออกกำลังกายแล้ว อบสมุนไพรแล้ว น้ำหนักก็ลดลงแต่ขนาดต้นขาก็ไม่ยอมลด ที่เป็นเช่นนี้เพราะไขมันส่วนนี้จะดื้อต่ออาหารและการออกกำลังกาย ขั้นตอนการดูดไม่ต่างจากการดูดไขมันหน้าท้อง ตำแหน่งที่แพทย์จะกรีด คือ บริเวณก้น ในบางรายแพทย์จะคาสายยางเพื่อระบายน้ำเหลือง และจะให้ยาปฏิชีวนะทาบริเวณแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หลังผ่าจะต้องสวมถุงสำหรับรัดบริเวณที่ดูดไขมันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ หลังจากดูด
ผู้ที่เหมาะสำหรับการดูดไขมัน
การดูดไขมันที่คอ
หน้าและคอเป็นบริเวณที่เห็นได้ง่าย หากมีการสะสมของไขมันในบริเวณนี้ก็จะทำให้ดูสูงวัย ไขมันบริเวณนี้ก็เหมือนกับไขมันบริเวณอื่นข้างต้น คือ คุมอาหาร หรือออกกำลังกาย ก็ไม่สามารถลดปริมาณของไขมันบริเวณนี้ วิธีการทำเหมือนกับการดูดไขมันหน้าท้อง ตำแหน่งที่จะกรีดแผลมักจะบริเวณใต้คางหรือหลังหู การดูดไขมันที่คอมักจะทำร่วมกับการดึงหน้า
หลังจากการดูดไขมันจะเริ่มพบกับการเปลี่ยนแปลงประมาณ 3 สัปดาห์ แต่จะเห็นผลเต็มที่เมื่อเวลา 6-12 เดือน แต่ต้องพึงระลึกว่าการออกกำลังกายจะทำให้ผิวหนังและความแข็งแรงของกล้าม เนื้อบริเวณนั้นดีขึ้น รูปร่างของท่านจะดูดีขึ้น ไขมันบริเวณนั้นจะไม่เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้ดูดเซลล์ไขมันในบริเวณหมดแล้ว หากน้ำหนักท่านขึ้นก็เป็นจากไขมันบริเวณอื่น เนื่องจากผิวหนังของคนสูงอายุจะหย่อนยานดังนั้นผลการรักษาจึงไม่ดีเหมือนคนหนุ่มสาว
การดูดไขมันต้นขา
ปัญหาที่สำคัญของผู้หญิงอีกอย่าง คือ การที่มีต้นขาใหญ่ ออกกำลังกายแล้ว อบสมุนไพรแล้ว น้ำหนักก็ลดลงแต่ขนาดต้นขาก็ไม่ยอมลด ที่เป็นเช่นนี้เพราะไขมันส่วนนี้จะดื้อต่ออาหารและการออกกำลังกาย ขั้นตอนการดูดไม่ต่างจากการดูดไขมันหน้าท้อง ตำแหน่งที่แพทย์จะกรีด คือ บริเวณก้น ในบางรายแพทย์จะคาสายยางเพื่อระบายน้ำเหลือง และจะให้ยาปฏิชีวนะทาบริเวณแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หลังผ่าจะต้องสวมถุงสำหรับรัดบริเวณที่ดูดไขมันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ หลังจากดูด
ผู้ที่เหมาะสำหรับการดูดไขมัน
- มีการสะสมของไขมันที่ขาเป็นบางบริเวณ
- บริเวณดังกล่าวไม่เคยได้รับการผ่าตัด
- ผิวหนังต้องมีความยืดหยุ่นเพียงพอ ไม่เหี่ยวย่น
- นำหนักไม่เปลี่ยนแปลงมาก
- ต้องการลดต้นขาเท่านั้น (ไม่ต้องการลดน้ำหนัก)
- ไม่มีโรค เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดขาตีบ
- อารมณ์ไม่แปรปรวน
- ไม่สูบบุหรี่
- ต้องยอมรับข้อจำกัดของการดูดไขมัน
- ไม่หวังผลเลิศเกินไป
การดูดไขมันที่คอ
หน้าและคอเป็นบริเวณที่เห็นได้ง่าย หากมีการสะสมของไขมันในบริเวณนี้ก็จะทำให้ดูสูงวัย ไขมันบริเวณนี้ก็เหมือนกับไขมันบริเวณอื่นข้างต้น คือ คุมอาหาร หรือออกกำลังกาย ก็ไม่สามารถลดปริมาณของไขมันบริเวณนี้ วิธีการทำเหมือนกับการดูดไขมันหน้าท้อง ตำแหน่งที่จะกรีดแผลมักจะบริเวณใต้คางหรือหลังหู การดูดไขมันที่คอมักจะทำร่วมกับการดึงหน้า
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล
สามารถโทรสอบถาม และใช้บริการได้ที่
ParBeauty & Slim
ปลาบิวตี้ & สลิม
เบอร์โทร. 08-7210-0901. 09-1619-1724
ถ.ริมหนองสมบูรณ์ (วงศ์สวรรค์) อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000