มะเร็งไฝ Melanomaเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดหนึ่งที่แพร่กระจายเร็วมาก เกิดจากเซลล์สร้างสีผิว Melanocyte การที่จะเข้าใจโรคนี้ท่านจะต้องเข้าใจโครงสร้างของผิวหนัง โครงสร้างของผิวหนัง
|
Melamoma
เป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ Melanocyte ที่แบ่งตัวนอกเหนือการควบคุมของร่างกาย ถ้าเกิดที่ผิวหนังเรียก Cutaneous melanoma เกิดที่ตาเรียก Ocular Melanoma โดยทั่วไปเกิดบริเวณลำตัว ขา ถ้าคนผิวดำมักเกิดที่เล็บ โดยทั่วไปมะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองและอาจพบที่อวัยวะอื่นๆ ได้ เรียก Metastasis Melanoma
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง
อาการของมะเร็งไฝ
อาการเริ่มแรกมักเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ขนาด สี รูปร่าง ขอบ บางรายอาจมีอาการคัน มีขุยหากเป็นมากขึ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงของความแข็ง หากพบมะเร็งเริ่มต้นการรักษาจะหายขาด แต่หากลุกลามเข้าใต้ผิวหนังมะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น
เป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ Melanocyte ที่แบ่งตัวนอกเหนือการควบคุมของร่างกาย ถ้าเกิดที่ผิวหนังเรียก Cutaneous melanoma เกิดที่ตาเรียก Ocular Melanoma โดยทั่วไปเกิดบริเวณลำตัว ขา ถ้าคนผิวดำมักเกิดที่เล็บ โดยทั่วไปมะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองและอาจพบที่อวัยวะอื่นๆ ได้ เรียก Metastasis Melanoma
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง
- ประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งไฝ จะมีความเสี่ยงเพิ่มมากกว่า 2 เท่า ดังนั้นสมาชิกในครอบครัวควรได้รับการตรวจจากแพทย์
- Dysplastic Nevi ไฝที่มีลักษณะชิ้นเนื้อแบบนี้จะมีโอกาสเป็นมะเร็งสูง
- เคยเป็น Melanoma
- ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น AIDS
- มีไฝจำนวนมาก เช่น มากกว่า 50 เม็ดจะมีโอกาสเป็นมะเร็งมาก
- แสง Ultraviolet ควรสวมเสื้อแขนยาวและหมวกเพื่อกันแสง ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดเวลา 10.00 - 16.00 น. ควรทาครีมกันแสงแดดร่วมด้วย
- เคยถูกแสงจนไหม้เมื่อวัยเด็ก ดังนั้นควรป้องกันไม่ให้เด็กสัมผัสแสงแดด
- สีผิว ผิวขาวมีโอกาสเกิดมะเร็งได้ง่ายกว่าผิวคล้ำ
อาการของมะเร็งไฝ
อาการเริ่มแรกมักเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ขนาด สี รูปร่าง ขอบ บางรายอาจมีอาการคัน มีขุยหากเป็นมากขึ้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงของความแข็ง หากพบมะเร็งเริ่มต้นการรักษาจะหายขาด แต่หากลุกลามเข้าใต้ผิวหนังมะเร็งอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น
การวินิจฉัย
หากแพทย์สงสัยว่าไฝที่เห็นว่าจะเป็นมะเร็งแพทย์จะตัดก้อนนั้นส่งพยาธิแพทย์ตรวจด้วยกล้องจุลทัศน์ หากก้อนนั้นใหญ่มากแพทย์จะตัดเพียงบางส่วนส่งตรวจ ถ้าพบเซลล์มะเร็งแพทย์จะตรวจพิเศษเพิ่มเพื่อตรวจดูว่ามะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นหรือยัง
การรักษา
หลังจากวินิจฉัยและทราบการแพร่กระจายของโรคแพทย์จะวางแผนการรักษา ก่อนการรักษาควรจดบันทึกคำถามเพื่อถามแพทย์ดังตัวอย่าง
- การวินิจฉัยของแพทย์
- มะเร็งแพร่กระจายไปหรือยัง
- ควรจะรักษาด้วยวิธีใดดีที่สุด และแพทย์เลือกวิธีใด
- โอกาสที่จะประสบผลสำเร็จมีมากหรือไม่
- เราจะทราบอย่างไรว่าการรักษาได้ผล
- การรักษาจะสิ้นสุดเมื่อใด
- จะดูแลตัวเองระหว่างการรักษาอย่างไร
- ผลข้างเคียงของการรักษามีอะไรบ้าง
- จะเจ็บปวดหรือไม่ และจะใช้ยาอะไรในการควบคุม
- หลังการผ่าตัดต้องรักษาอย่างอื่นหรือไม่
วิธีการรักษา
- การผ่าตัด เป็นการรักษามาตรฐานแพทย์จะพยายามตัดเนื้อร้ายออกให้หมดร่วมทั้งต่อมน้ำเหลืองที่ใกล้เนื้อร้าย ถ้ามะเร็งแพร่กระจายไปอวัยวะอื่น แพทย์จะให้การรักษาอย่างอื่น
- เคมีบำบัด เป็นการให้สารเคมีเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง โดยอาจเป็นยากินหรือยาฉีด
- รังสีรักษาเป็นการฆ่ามะเร็งเฉพาะที่โดยเฉพาะมะเร็งที่แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น เช่น สมอง ปอด ตับ
- การสร้างภูมิคุ้มกัน อาจให้ภูมิโดยการฉีด เช่น การให้ interferon หรือ interleukin โดยการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิขึ้นมา เช่น การฉีดวัคซีน
ผลข้างเคียงของการรักษา
- การผ่าตัด อาจทำให้เกิดแผลเป็นบางรายเกิด Keloid การตัดต่อมน้ำเหลืองอาจทำให้ขาหรือแขนบวม
- เคมีบำบัด การให้เคมีบำบัดอาจให้เกิดโลหิตจาง ติดเชื้อง่าย หรือเลือดออกง่าย ผมร่วง
- รังสีรักษา ทำให้ผมบริเวณที่ฉายรังสีร่วง อาจมีอาการอ่อนเพลีย
- การสร้างภูมิคุ้มกัน อาจมีอาการปวดเมื่อตามตัวเบื่ออาหาร ท้องร่วง
สามารถโทรสอบถาม และใช้บริการได้ที่
ParBeauty & Slim
ปลาบิวตี้ & สลิม
เบอร์โทร. 08-7210-0901. 09-1619-1724
ถ.ริมหนองสมบูรณ์ (วงศ์สวรรค์) อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000