_สารเคมีที่ใช้ลอกหน้าสารเคมีที่ใช้ในการลอกหน้า สารเคมีที่ใช้ในการลอกหน้ามีด้วยกันหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีความรุนแรงต่างกัน มีโรคแทรกซ้อนต่างกัน การศึกษาคุณสมบัติของสารเคมีที่ใช้ในการลอกหน้าจะช่วยให้ท่านได้ประโยชน์จากการลอกหน้า 1. Alphahydroxy Acid หรือ AHA หรือกรดผลไม้ (Fruit Acid) เป็นกรดที่ได้มาจากผลไม้ มีฤทธิ์ทำให้ผิวลอกเล็กน้อย กรดผลไม้จะซึมผ่านชั้นนอกของผิวหนังลงไป ทำให้เซลล์ชั้นนอกหลุดออกจากกัน ทำให้ผิวสดใส และผิวด้านนอกจะงอกขึ้นใหม่ หลังการทายาอาจจะมีอาการแสบคันเป็นเวลา 20 นาที แต่หากอาการเหล่านี้ไม่หาย ก็ควรจะงดเครื่องสำอางค์ชนิดนั้น หรือเลือกเครื่องสำอางค์ที่มีความเข้มข้นต่ำลง กรดผลไม้เหมาะสำหรับรอยย่นที่ไม่มาก ชนิดของกรดผลไม้ ดังนี้
การใช้กรดผลไม้ในการลอกหน้า
|
_รอยย่นก่อนลอกหน้า
_รอยย่นจางลงหลังลอกหน้า
|
2. Jessner's Peels ใช้ลอกหน้าชนิดปากกลาง ลอกหน้าได้ลึกกว่ากรดผลไม้ สารนี้ประกอบด้วย Salicylic Acid (BHA), Lactic Acid (AHA) และ Resorcinol แพทย์จะทากรดผลไม้เพื่อให้หน้าท่านสะอาด หลังจากนั้นจะทา Jessner's Peels ท่านอาจจะรู้สึกปวดแสบบริเวณที่ทาซึ่งอาจจะบรรเทาโดยการใช้พัดลมช่วยเป่า หลังจากล้างเอาครีมออก ใบหน้าท่านจะมีสีขาว และเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อหายแล้วผิวหน้าจะดูดีขึ้น
3. The Obagi Blue Peels ส่วนประกอบที่สำคัญคือ Trichloracetic Acid (TCA) ใช้ลอกหน้าในรายที่มีรอยตื้นๆ ผิวตกกระไม่มาก ระหว่างการลอกหน้าจะมีอาการปวดแสบร้อนเหมือนกัน
4. Phenol เป็นสารเคมีที่มีความเป็นกรดมากที่สุด ใช้ลอกหน้าชนิดลึก การลอกหน้าชนิดนี้จะมีอาการปวดแสบมากกว่าชนิดอื่น จำเป็นต้องใช้ยาชาและยากล่อมประสาท แพทย์จะต้องตรวจวัดความดันและการเต้นของหัวใจในระหว่างการลอกหน้า หลังการลอกหน้าชนิดนี้ห้ามไปตากแดดเพื่อให้ผิวเข้มขึ้น การลอกหน้านี้ให้ใช้เฉพาะใบหน้าเท่านั้น หากใช้บริเวณอื่นอาจจะทำให้เกิดแผลเป็นได้ง่าย จะใช้ลอกหน้าสำหรับผู้ที่มีรอยโรคลึก เช่น รอยย่นลึก แผลเป็น ผิวหนังจะเริ่มสร้างใหม่ใน 10 วัน ช่วงแรกผิวจะมีสีแดง และจะกลายเป็นสีชมพูในหลายสัปดาห์ / หลายเดือน เป็นต้น
ข้อบ่งชี้ในการใช้
- ใช้ในการรักษาแผลจาก แสงแดด ยาคุมกำเนิด สิว
- ใช้รักษารอยย่นที่ลึกจากอายุ
- ใช้รักษามะเร็ง
ข้อแนะนำในการใช้
- ใช้เฉพาะหน้าเท่านั้น
- ไม่แนะนำสำหรับคนผิวคล้ำ
- ไม่ควรทำในผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจ
- ระยะเวลาในการลอกหน้าประมาณ 1 ชั่วโมง
- ใช้เวลานานหลายเดือนกว่าผิวหนังจะกลับคืนสู่ปกติ
- ลบรอยกระได้อย่างถาวร
- ต้องทาครีมกันแสงตลอดไป
- ผลการรักษาค่อนข้างจะดี และอยู่ถาวร
5. Trichloroacetic Acid (TCA) ใช้ลอกหน้าชนิดปานกลาง ระหว่างที่มีการลอกหน้าจะมีอาการแสบร้อนและระคายเคือง หลังการลอกหน้า 7 - 10 วัน ผิวจะกลับปกติ ประโยชน์ในการใช้
- ใช้ลบรอยย่นบนใบหน้า
- ลบรอยแผลตื้นๆ บนใบหน้า
- แก้ปัญหาเรื่องเม็ดสีบนใบหน้า
ข้อที่ควรจะต้องพิจารณา
- สามารถใช้กับส่วนอื่นของร่างกาย
- อาจจะต้องให้กรดผลไม้หรือวิตามินเอทาหน้าก่อนที่จะลอกหน้า
- ทาครีมไว้ 10 - 15 นาที
- คนผิวสีเข้มจะได้ผลดีกว่า
- สามารถลอกหน้าระดับลึกได้
- อาจจะต้องลอกอีกเพื่อให้หน้าดูดี
- ต้องทาครีมกันแดด
- ใช้เวลาไม่นานผิวจึงจะปกติ
ข้อควรปฏิบัติหลังการลอกหน้า
หลังการลอกหน้าจะมีความรู้สึกแสบร้อนและบวมบริเวณใบหน้า อย่ายิ้ม อย่าอ้าปาก หรือการแสดงออกบนใบหน้ามากเกินไปเพราะอาจจะทำให้เกิดการฉีกขาดของผิวหนัง และเกิดแผลเป็น ข้อควรปฏิบัติหลังการลอกหน้า
- ให้ใช้สบู่อ่อนล้างหน้า
- อาจจะต้องใช้ครีมบำรุงผิวชนิดพิเศษ
- อย่าทาครีม หรือเครื่องสำอางค์อื่น โดยที่ไม่รู้ส่วนประกอบเพราะอาจจะมีสารเคมีที่ใช้ในการลอกหน้าซึ่งอาจจะทำ ให้เกิดอาการระคายเคืองกับใบหน้า
- หลีกเลี่ยงแสงแดด และให้ใช้ครีมกันแสงแดด
- อย่าแกะ หรือขัดสะเก็ด เพราะอาจจะทำให้เกิดแผลเป็น
- หากเกิดเริมให้แจ้งแพทย์ผู้รักษา
ข้อห้ามใช้สารเคมีในการลอกหน้า
- หากท่านยังต้องทำงานเจอแสงแดดอยู่
- กำลังเป็นโรคเริม ไข้สุกใส
- เป็นโรคหูด
- ประวัติเป็น Keloid
- ประวัติใช้ยารักษาสิว Accutane ใน1 ปี
- กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมลูก
- เป็นโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน เช่น เอสแอลอี (SLE)
- ได้รับเคมีบำบัด หรือรังสีรักษา
- คนที่มีผิวค่อนข้างคล้ำ
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล
http://www.siamhealth.net/public_html/Health/Photo_teaching/beauty/chempeel.htm_
สามารถโทรสอบถาม และใช้บริการได้ที่
ParBeauty & Slim
ปลาบิวตี้ & สลิม
เบอร์โทร. 08-7210-0901. 09-1619-1724
ถ.ริมหนองสมบูรณ์ (วงศ์สวรรค์) อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 60000