ผิวหนังทั่วร่างกายล้วนแล้วแต่เสื่อมถอยไปตามกาลเวลา แต่บริเวณที่ถูกแสงแดดสูงสุดจะเกิดความเสื่อมถอยสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวด้าน ผิวเหี่ยวย่น มีกระ ฝ้า หรือตีนกา ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นสองจำพวก ได้แก่ พวกที่เป็นเส้นตื้นๆ และเส้นลึก ปกติแล้วทรีตเมนต์จะดีต่อเส้นบางอย่างมากในขณะที่เส้นลึกอาจต้องใช้วิธีแรง ขึ้นสักนิด อย่างเช่น ศัลยกรรมพลาสติก โดยปัจจัยที่กระตุ้นให้มีตีนกาคือการสูบบุหรี่ สีผิวดั้งเดิม (ในคนที่มีผิวขาวกับตาสีฟ้ามักได้รับอันตรายจากแสงแดดมากกว่า) ทรงผม (ซึ่งจะส่งผลโดยตรงว่าผิวหนังส่วนไหนถูกแสงแดดบ้าง) พันธุกรรม และรวมไปถึงอาชีพด้วย
ในปัจจุบันมีวิธีการทางการแพทย์หรือครีมบำรุงมากมายที่ให้ผลต่างๆ คือเปลี่ยนแปลงคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวตึงขึ้น เติมเต็มช่องว่างภายในผิว ทำให้กล้ามเนื้อที่รับผิดชอบการเหี่ยวย่นของผิวเป็นอัมพาต ในส่วนของครีมบำรุงเริ่มตั้งแต่การใช้วิตามินเอ กรดอัลฟาไฮดร็อกซี่ สารต้านอนุมูลอิสระ จำพวกวิตามินเอ ซี อี และเบต้าแคโรทีน
Fast Fix Peels ประเภทแรกคือ Glycolic Acid Peels หรือใช้กรดไกลโคลิกลอกผิว ซึ่งจะช่วยให้ตีนกาตื้นๆ ดูบางลงได้แต่ก็น้อยมาก ประเภทต่อมาคือการใช้สารอย่างเช่น Salicylic Acid กับ Trichloroacetic Acid ซึ่งแทรกลงในผิวได้ลึกยิ่งขึ้น (และแน่นอนว่าทำงานได้ดีกว่าแบบแรก) แม้จะไม่ต้องถึงกับวางยาสลบ แต่ก็มีความเสี่ยง อย่างเช่น สีผิวเปลี่ยนถาวร และอาจเกิดแผลเป็นได้
Dermabrasion หรือการกรอผิว มักจะต้องวางยาสลบ ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์เป็นอย่างมาก เพราะการขัดผิวอาจปรับสภาพผิวของคุณได้อย่างมหาศาล แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลเป็นหรือทำให้สีผิวเสียหายถาวรก็ได้
Laser Resurfacing เทคโนโลยีในกลุ่มนี้มีหลายแบบตั้งแต่การใช้คาร์บอนไดออกไซด์ไปจนถึงเลเซอร์ ซึ่งอาจให้ผลเหมือนกับการขัดผิว แต่มีความแม่นยำสูงกว่า เลเซอร์จะถูกส่งลงบนผิวหนังหลายๆ ครั้งจนกระทั่งถึงผิวหนังชั้น Dermis โดยจะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน แพทย์บางคนอาจใช้ยาชาไม่ว่าจะเป็นยาทาหรือยาฉีด อย่างไรก็ดี จำเป็นต้องทำซ้ำหลายๆ ครั้ง แล้วอาจจะต้องใช้เวลาหลังจากทำทรีตเมนต์หลายสัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือนจึงจะเห็นผล
Fractional Resurfacing ทรีตเมนต์เหล่านี้ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง ไม่ครอบคลุมถึงผิวหนังทั้งหมด แต่จะเจาะจงแค่บริเวณที่มีปัญหาเท่านั้น ต้องทำซ้ำหลายๆ ครั้งเช่นกัน แต่จะเห็นผลเร็วกว่า Laser Resurfacing
Non-Ablative Laser Resurfacing เลเซอร์ตัวใหม่ที่ใช้เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังโดยไม่ทำลายผิวหนังชั้น นอก มีการศึกษาชี้ว่าเลเซอร์เหล่านี้จะช่วยเลือนรอยตีนกาเล็ก ๆ ได้ดี แม้ว่าจะไม่ดีเท่า Laser Resurfacing ก็ตาม ความร้อนและคลื่นวิทยุ อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับ Facial Rejuvenation ที่ไม่ต้องผ่านมีดหมอก็คือ การให้ความร้อนแก่เนื้อเยื่อโดยใช้เครื่องมือส่งความถี่วิทยุและอินฟราเรด แม้ว่าจะยังต้องมีการศึกษาต่อไปในทรีตเมนต์กลุ่มนี้ แต่งานวิจัยในปัจจุบันก็ชี้ว่าค่อนข้างปลอดภัย และได้ผลนาน เพียงแต่อาจจะไม่เห็นผลชัดเหมือนการยกกระชับใบหน้าเท่านั้นเอง
http://www.ladyissue.com/index.php?mo=3&art=42019210
ในปัจจุบันมีวิธีการทางการแพทย์หรือครีมบำรุงมากมายที่ให้ผลต่างๆ คือเปลี่ยนแปลงคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวตึงขึ้น เติมเต็มช่องว่างภายในผิว ทำให้กล้ามเนื้อที่รับผิดชอบการเหี่ยวย่นของผิวเป็นอัมพาต ในส่วนของครีมบำรุงเริ่มตั้งแต่การใช้วิตามินเอ กรดอัลฟาไฮดร็อกซี่ สารต้านอนุมูลอิสระ จำพวกวิตามินเอ ซี อี และเบต้าแคโรทีน
Fast Fix Peels ประเภทแรกคือ Glycolic Acid Peels หรือใช้กรดไกลโคลิกลอกผิว ซึ่งจะช่วยให้ตีนกาตื้นๆ ดูบางลงได้แต่ก็น้อยมาก ประเภทต่อมาคือการใช้สารอย่างเช่น Salicylic Acid กับ Trichloroacetic Acid ซึ่งแทรกลงในผิวได้ลึกยิ่งขึ้น (และแน่นอนว่าทำงานได้ดีกว่าแบบแรก) แม้จะไม่ต้องถึงกับวางยาสลบ แต่ก็มีความเสี่ยง อย่างเช่น สีผิวเปลี่ยนถาวร และอาจเกิดแผลเป็นได้
Dermabrasion หรือการกรอผิว มักจะต้องวางยาสลบ ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์เป็นอย่างมาก เพราะการขัดผิวอาจปรับสภาพผิวของคุณได้อย่างมหาศาล แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดแผลเป็นหรือทำให้สีผิวเสียหายถาวรก็ได้
Laser Resurfacing เทคโนโลยีในกลุ่มนี้มีหลายแบบตั้งแต่การใช้คาร์บอนไดออกไซด์ไปจนถึงเลเซอร์ ซึ่งอาจให้ผลเหมือนกับการขัดผิว แต่มีความแม่นยำสูงกว่า เลเซอร์จะถูกส่งลงบนผิวหนังหลายๆ ครั้งจนกระทั่งถึงผิวหนังชั้น Dermis โดยจะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน แพทย์บางคนอาจใช้ยาชาไม่ว่าจะเป็นยาทาหรือยาฉีด อย่างไรก็ดี จำเป็นต้องทำซ้ำหลายๆ ครั้ง แล้วอาจจะต้องใช้เวลาหลังจากทำทรีตเมนต์หลายสัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือนจึงจะเห็นผล
Fractional Resurfacing ทรีตเมนต์เหล่านี้ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง ไม่ครอบคลุมถึงผิวหนังทั้งหมด แต่จะเจาะจงแค่บริเวณที่มีปัญหาเท่านั้น ต้องทำซ้ำหลายๆ ครั้งเช่นกัน แต่จะเห็นผลเร็วกว่า Laser Resurfacing
Non-Ablative Laser Resurfacing เลเซอร์ตัวใหม่ที่ใช้เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังโดยไม่ทำลายผิวหนังชั้น นอก มีการศึกษาชี้ว่าเลเซอร์เหล่านี้จะช่วยเลือนรอยตีนกาเล็ก ๆ ได้ดี แม้ว่าจะไม่ดีเท่า Laser Resurfacing ก็ตาม ความร้อนและคลื่นวิทยุ อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับ Facial Rejuvenation ที่ไม่ต้องผ่านมีดหมอก็คือ การให้ความร้อนแก่เนื้อเยื่อโดยใช้เครื่องมือส่งความถี่วิทยุและอินฟราเรด แม้ว่าจะยังต้องมีการศึกษาต่อไปในทรีตเมนต์กลุ่มนี้ แต่งานวิจัยในปัจจุบันก็ชี้ว่าค่อนข้างปลอดภัย และได้ผลนาน เพียงแต่อาจจะไม่เห็นผลชัดเหมือนการยกกระชับใบหน้าเท่านั้นเอง
http://www.ladyissue.com/index.php?mo=3&art=42019210